Garmin x Rabbit คือบัตรแรบบิทเสมือนที่ฝังอยู่บนนาฬิกา Garmin โดยบัตรแรบบิทบนนาฬิกา Garmin จะเรียกว่า “ฟังก์ชันแรบบิท” ซึ่งเป็นสมาร์ทการ์ดที่มีมูลค่าสำหรับใช้จ่ายแบบไร้การสัมผัส ดำเนินการโดย บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (บีเอสเอส)
เมื่อคุณได้รับนาฬิกา Garmin ที่มีฟังก์ชันแรบบิท คุณจำเป็นต้องทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน KYC (Know Your Customer) และเติมงินเพื่อเริ่มต้นใช้งาน จากนั้นคุณสามารถใช้จ่ายสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส, บีอาร์ที, เรือและรถประจำทางในกรุงเทพมหานคร และเมืองใหญ่อื่น ๆ รวมทั้งสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าจากร้านค้าที่รองรับบัตรแรบบิท โปรดตรวจสอบรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมของฟังก์ชันแรบบิท ที่นี่

โปรดตรวจสอบนาฬิกา Garmin รุ่นที่รองรับฟังก์ชันแรบบิท ที่นี่

คุณสามารถใช้นาฬิกา Garmin x Rabbit ได้ที่ รถไฟฟ้าบีทีเอส, บีอาร์ที, เรือ, รถประจำทางในกรุงเทพและเมืองใหญ่อื่นๆ รวมทั้งสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าจากร้านค้าที่รองรับบัตรแรบบิท โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับวิธีและสถานที่ใช้จ่ายบัตรแรบบิท ที่นี่

ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับการใช้ Garmin x Rabbit

นาฬิกา Garmin จะมีการฝังบัตรแรบบิทไว้ 1 หมายเลขบนนาฬิกาอยู่แล้ว คุณไม่สามารถลงทะเบียนหรือเพิ่มบัตรแรบบิทใบอื่นบนนาฬิกาได้อีก

คุณสามารถใช้นาฬิกา Garmin x Rabbit สำหรับเดินทางไปยังรถไฟฟ้าสถานีส่วนต่อขยายได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมียอดเงินคงเหลือเพียงพอสำหรับเดินทางไปยังสถานีส่วนต่อขยาย หากคุณมียอดเงินคงเหลือในฟังก์ชันแรบบิทไม่เพียงพอ โปรดเติมเงินในบัตรผ่านห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือ แอป My Rabbit ก่อนเดินทาง

Garmin x Rabbit ไม่สามารถผูกกับ แรบบิท ไลน์ เพย์ ได้

Garmin x Rabbit จะมีบัตรแรบบิทเสมือนที่ฝังอยู่ในนาฬิกา Garmin อยู่แล้ว ก่อนเริ่มการใช้งาน คุณจำเป็นต้องทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน KYC และเติมเงินเพื่อเริ่มต้นการใช้งาน โปรดดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

*เมื่อมีการใช้งานนาฬิกา Garmin x Rabbit เป็นครั้งแรก โปรดจับคู่นาฬิกา Garmin x Rabbit กับ แอปพลิเคชัน Garmin Connect บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์บนนาฬิกา Garmin x Rabbit เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

ลงทะเบียนยืนยันตัวตน (KYC) สำหรับฟังก์ชันแรบบิท

ฟังก์ชันแรบบิทจำเป็นต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตน (KYC) ตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตนสำหรับฟังก์ชันบัตรแรบบิท จะไม่สามารถเติมเงินได้จนกว่าการลงทะเบียนยืนยันตัวตนเสร็จสมบูรณ์

• ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน (KYC)
  หมายเหตุ: สำหรับชาวต่างชาติต้องทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตนพร้อมหนังสือเดินทางที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส เท่านั้น
• ทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน My Rabbit (eKYC)
  1. โปรดดาวน์โหลดแอป My Rabbit (คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดที่ “ฉันไม่พบแอปพลิเคชัน My Rabbit ใน App Store/ Google Play”)
     หมายเหตุ: แอป My Rabbit สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชัน NFC ร่วมกับ iOS v.13 หรือ Android 8 ขึ้นไปเท่านั้น
  2. หากคุณใช้งานแอป My Rabbit เป็นครั้งแรก คุณจำเป็นต้องสร้างบัญชี My Rabbit จากนั้นทำตามคำแนะนำในแอป My Rabbit และวิดิโอด้านบน
  3. ลงทะเบียนยืนยันตัวตน (eKYC) หลังจากสร้างบัญชี My Rabbit เรียบร้อยแล้ว โปรดลงทะเบียนยืนยันตัวตน eKYC ดังนี้
     1. กด “ทำการยืนยันตัวตนเพื่อใช้งานเต็มรูปแบบ”
     2. แตะนาฬิกาที่ด้านหลังโทรศัพท์ และถือค้างไว้สักครู่ รอจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ (โปรดถอดเคสโทรศัพท์ออกขณะทำการสแกน)

        หมายเหตุ:

        โปรดตรวจสอบตำแหน่ง NFC ของโทรศัพท์มือถือสำหรับการสแกน หากไม่สามารถหาตำแหน่ง NFC ได้หรือสแกนไม่สำเร็จ โปรดติดต่อห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน
     3. กรอกหมายเลขบัตรประชาชน
     4. ถ่ายรูปบัตรประชาชน
     5. กรอกข้อมูลส่วนตัวตามบัตรประชาชน
     6. ถ่ายรูปใบหน้าของคุณ โดยทำตามคำบอก
     7. แตะนาฬิกาที่ด้านหลังโทรศัพท์และถือค้างไว้สักครู่อีกครั้ง รอจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์

---

การเติมเงินสำหรับนาฬิกา Garmin x Rabbit

วิธีเติมเงิน ตรวจสอบมูลค่าคงเหลือ และชำระเงินด้วย Garmin x Rabbit ดังต่อไปนี้:

• คุณสามารถเติมเงินผ่านแอป My Rabbit ได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
  1. กด “เติมเงิน”
  2. แตะนาฬิกา Garmin x Rabbit ที่ด้านหลังโทรศัพท์ และถือค้างไว้สักครู่ รอจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์
     หมายเหตุ:โปรดตรวจสอบตำแหน่ง NFC ของโทรศัพท์มือถือสำหรับการสแกน
  3. เลือก “เติมเงิน” และ “ช่องทางการชำระเงิน”
  4. ระบบจะพาคุณไปยังแอปพลิเคชั่นของธนาคารตามช่องทางการชำระเงินที่คุณเลือก
  5. กลับสู่หน้าแอป My Rabbit อีกครั้งหลังจากที่ทำธุระกรรมผ่านแอปธนาคารเรียบร้อยแล้ว
  6. แตะนาฬิกา Garmin x Rabbit ที่ด้านหลังโทรศัพท์ และถือค้างไว้สักครู่อีกครั้ง รอจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์
• ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ ที่รถไฟฟ้าบีทีเอส
  คุณสามารถเติมเงินผ่านตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ โดยทำตามคำแนะนำด้านล่าง:
  1. วางหรือแตะนาฬิกาและค้างไว้ที่ช่องใส่บัตร
  2. กดปุ่ม “เติมเงิน” บนหน้าจอ นอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบการประวัติการใช้งานได้ในขั้นตอนนี้
  3. ใส่ธนบัตรหรือเหรียญขั้นต่ำ 20 บาท คุณสามารถเติมเงินได้สูงสุด 4,000 บาท ของมูลค่าทั้งหมด จากนั้นรอจนกว่าขั้นตอนจะเสร็จสมบูรณ์
• ติดต่อห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ทุกสถานี
• เติมเงินที่ตู้ Kiosk ที่ให้บริการเติมเงินบัตรแรบบิท
• คุณสามารถเติมเงินได้ที่ตู้ Kiosk ที่มีสัญลักษณ์ “เติมเงินบัตรแรบบิท”

เติมเงินที่ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตและมีสัญลักษณ์แสดง “เติมเงินบัตรแรบบิท”

โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการเติมเงินสำหรับฟังก์ชันแรบบิท ที่นี่

หากคุณไม่สามารถทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน (KYC) หรือมีปัญหาอื่นๆ โปรดติดต่อห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือบีอาร์ที ทุกสถานี หรือ อีเมล info@rabbit.co.th หรือแรบบิท ฮอตไลน์ เบอร์โทรศัพท์ 02-617-8383

คุณจะได้รับใบเสร็จหลังจากที่ทำการเติมเงินที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส และบีอาร์ที ทุกสถานี และผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต หากคุณเติมเงินผ่านแอป My Rabbit คุณจะได้รับสลิปการโอนเงินออนไลน์จากธนาคาร แต่ถ้าเติมเงินผ่านตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ หรือตู้ Kiosk จะไม่สามารถออกใบเสร็จได้

หมายเลขบัตรแรบบิทจะมีความจำเป็นต้องใช้เมื่อคุณมีการติดต่อ แรบบิท ฮอตไลน์ เบอร์โทรศัพท์ 02-617-8383 สำหรับการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับฟังก์ชันแรบบิท คุณสามารถค้นหาหมายเลขบัตรแรบบิทของคุณได้จากแอป Garmin Connect บนโทรศัพท์มือถือ, ค้นหาได้บนนาฬิกา Garmin และค้นหาจากแอป My Rabbit

• ตรวจสอบหมายเลขบัตรแรบบิทจากการเชื่อมต่อแอป Garmin Connect บนโทรศัพท์มือถือ
  1. เข้าสู่เมนูของแอป
     • Android: เลือก “ขีดสามขีด” (บนซ้าย)
     • iOS: 1. เลือก “มากขึ้น” (ล่างขวา)
  2. เลือก “อุปกรณ์ Garmin”
  3. เลือกอุปกรณ์ Garmin x Rabbit ที่ทำการเชื่อมต่ออยู่
  4. เลือก “Garmin Pay”
  5. บัตรแรบบิทจะแสดงขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์
  6. แตะที่รูปบัตรแรบบิท1ครั้ง เพื่อให้แสดงหมายเลขบัตรแรบบิท
• ตรวจสอบหมายเลขบัตรแรบบิทบนนาฬิกา ดังนี้
  เลือก “ตั้งค่า >> ระบบ >> เกี่ยวกับ >> หมายเลขบัตรแรบบิท”

Rapid Pass Card เป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้คุณทำการชำระเงินได้ทันที เพียงแค่นำนาฬิกาที่ใส่อยู่บนข้อมือไปสแกนหนือเครื่องอ่านบัตร ทั้งนี้นาฬิกาจะถูกตั้งค่าเป็น “Rapid Pass Card” เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่แรก

หากคุณต้องการเปิดหรือปิดการใช้งานฟังก์ชัน Rapid Pass Card บน Garmin Connect Mobile สามารถดำเนินขั้นตอนดังต่อไปนี้:

1. เข้าสู่เมนูของแอป
   • Android: เลือก “ขีดสามขีด” (บนซ้าย)
   • iOS: 1. เลือก “มากขึ้น” (ล่างขวา)
2. เลือก “อุปกรณ์ Garmin”
3. เลือกอุปกรณ์ Garmin x Rabbit ที่ทำการเชื่อมต่ออยู่
4. เลือก “Garmin Pay”
5. บัตรแรบบิทจะแสดงขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์
6. แตะที่รูปบัตรแรบบิท1ครั้ง เพื่อให้แสดงหมายเลขบัตรแรบบิท
7. แตะ เพื่อปิดการใช้งานบัตรนี้ และปุ่มจะกลายเป็น “เปิดใช้งานบัตร”

หากคุณต้องการเปลี่ยนเป็นการเปิดใช้งานฟังก์ชัน Rapid Pass Card โปรดแตะเปิดใช้งานบัตรและปุ่มจะกลายเป็น “ปิดใช้งานบัตร”

นาฬิกาจะถูกตั้งค่าเป็น “Rapid Pass Card” เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่แรก เพื่อให้คุณสามารถชำระเงินได้โดยเพียงแค่แตะนาฬิกาไว้เหนือเครื่องอ่านบัตรเท่านั้น ทั้งนี้โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าปัดนาฬิกาและเครื่องอ่านนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ขนานกัน และแตะค้างไว้สักครู่รอจนกระทั่งการชำระเงินเสร็จสมบูรณ์

หากเครื่องอ่านบัตรไม่สามารถสแกนนาฬิกาได้ โปรดตรวจสอบอีกครั้งว่านาฬิกาอยู่ตำแหน่งตรงกลางของเครื่องอ่านหรือไม่ หรือเลื่อนนาฬิกาขึ้นและลงเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องอ่านบัตรสามารถอ่านค่าได้สมบูรณ์

หากในกรณีที่คุณปิดการใช้งานคุณสมบัติของ Rapid Card บนแอป Garmin Connect โปรดทำตามคำแนะนำด้านล่างนี้เพื่อทำการชำระเงิน

1. เลือก “กระเป๋าเงิน” บนนาฬิกา
2. ใส่รหัสผ่าน
3. ยกแขนที่สวมนาฬิกาสแกนเหนือเครื่องอ่านบัตรแรบบิท โดยแสดงหน้าจอการชำระเงินบนนาฬิกา

คุณสามารถเติมเงินในฟังก์ชันแรบบิทจนมีมูลค่าในแรบบิทได้สูงสุด 4,000 บาท โปรดตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการเติมเงินเพิ่มเติมได้ ที่นี่

คุณสามารถตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังต่อไปนี้

• ตรวจสอบผ่านแอป My Rabbit
  1. เข้าสู่ระบบแอป My Rabbit
  2. กด “เช็กยอดเงิน”
  3. วางนาฬิกา Garmin x Rabbit ไว้ด้านหลังของโทรศัพท์ และค้างไว้สักครู่ รอจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น
  4. ยอดเงินคงเหลือจะแสดงขึ้นในหน้าหลักของแอป

  garmin.faq.a14.remark

• ตรวจสอบได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ทกุสถานี
• ตรวจสอบได้ที่ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตและมีสัญลักษณ์แสดง “เติมเงินบัตรแรบบิท”

คุณสามารถตรวจสอบประวัติการใช้งานด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังต่อไปนี้

• ติดต่อห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือ บีอาร์ที
• ตรวจสอบผ่านแอป My Rabbit
  1. กด “ข้อมูลของฉัน”
  2. เลือก “ประวัติการใช้งาน” จากนั้นกด “ดูรายการเพิ่มเติม”
  3. วางนาฬิกา Garmin x Rabbit ไว้ที่ด้านหลังโทรศัพท์มือถือ และค้างไว้สักครู่ รอจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น
  4. ประวัติการใช้งานจะแสดงขึ้น

นาฬิกา Garmin x Rabbit ไม่ตอบสนองที่ประตูอัตโนมัติ หรือเครื่องอ่านบัตรแรบบิทที่ร้านค้า

• โปรดตรวจสอบว่าคุณปิดคุณสมบัติการใช้งาน Rapid pass card บน Garmin Connect หรือไม่ หากคุณปิดคุณสมบัติการใช้งาน Rapid pass card คุณต้องใส่รหัสผ่านก่อนคุณชำระเงิน หากคุณต้องการชำระเงินโดยไม่ต้องการใส่รหัสผ่านบนนาฬิกา คุณจะต้องเปิดใช้คุณสมบัติการใช้งาน Rapid pass card ก่อน โปรดตรวจสอบวิธีการได้ที่ “เปิดใช้งานหรือปิดใช้งานคุณสมบัติ Rapid Pass Card บน Garmin Connect”
• หากคุณไม่ได้ใช้นาฬิกา Garmin x Rabbit เป็นเวลานาน นาฬิกาอาจไม่ทำงานและไม่สามารถใช้งานได้ชั่วคราว กรุณาเติมเงินลงในฟังก์ชันแรบบิทเพื่อเริ่มต้นใช้งานอีกครั้ง

การชำระเงินไม่สำเร็จแม้ว่ามีการแสดงหน้าจอการชำระเงินบนนาฬิกา

• โปรดตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตรว่าเพียงพอสำหรับสแกนหรือไม่ หากคุณมียอดเงินในบัตรไม่เพียงพอ นาฬิกาGarmin x Rabbit จะไม่สามารถทำการสแกนเพื่อชำระเงินได้
• หากคุณมียอดเงินในบัตรคงเหลือเพียงพอแต่ยังไม่สามารถทำการสแกนเพื่อชำระได้ โปรดลองรีเซ็ตนาฬิกาหรืออัพเดตซอฟต์แวร์ของนาฬิกาให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด จากนั้นลองทำการสแกนเพื่อชำระอีกครั้ง
• หากตรวจสอบทุกอย่างแล้วแต่ยังคงพบปัญหาดังกล่าวอยู่ โปรดนำนาฬิกา Garmin x Rabbit ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือบีอาร์ที เพื่อตรวจสอบสถานะและเงื่อนไขการใช้งานฟังก์ชันแรบบิท หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โปรดติดต่อศูนย์สนับสนุนลูกค้า Garmin เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

หากคุณอยู่ที่ประตูอัตโนมัติของรถไฟฟ้าบีทีเอส โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อทำการชำระเงินซื้อตั๋วใหม่และสแกนด้วยบัตรแรบบิทแทน (ถ้ามี)

ฟังก์ชันแรบบิทจะมีอายุ 7 ปี หากฟังก์ชันแรบบิทบนนาฬิกาหมดอายุแต่ยังคงมียอดเงินคงเหลืออยู่ คุณสามารถจัดการกับยอดเงินคงเหลือได้ดังนี้

1. คุณสามารถใช้จ่ายยอดเงินที่คงเหลืออยู่ในแรบบิทจนหมด แต่จะไม่สามารถเติมเงินได้อีกต่อไป
2. คุณสามารถขอคืนยอดเงินคงเหลือได้ โดยติดต่อศูนย์บริการแรบบิท (รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพญาไท)

โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอายุของบัตรแรบบิท ที่นี่

บนนาฬิกา Garmin ได้มีการฝังบัตรแรบบิทเสมือนไว้อยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใหม่เมื่อมีการลงชื่อเข้าใช้แอป Garmin connect อีกครั้ง

1. หากนาฬิกาของคุณพบปัญหา คุณสามารถติดต่อศูนย์สนับสนุนลูกค้า Garmin เพื่อช่วยเหลือและแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหา
2. หากปัญหายังคงอยู่หลังจากการได้รับคำแนะนำแก้ไขปัญหา คุณสามารถลงทะเบียนแจ้งซ่อมแซมออนไลน์ได้ ที่นี่

ทั้งนี้ก่อนที่จะส่งนาฬิกาเข้ามาซ่อม คุณไม่จำเป็นต้องติดต่อแรบบิท เพื่อให้ดำเนินการคืนยอดเงินคงเหลือในฟังก์ชันแรบบิท เนื่องจากหลังจากที่คุณส่งนาฬิกาเข้ามาแล้ว Garmin จะช่วยดำเนินการส่งคำขอคืนยอดเงินคงเหลือในแรบบิทให้คุณ

3. Garmin จะตรวจสอบนาฬิกาของคุณหลังจากได้รับอุปกรณ์ หากนาฬิกาของคุณมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นนาฬิกาเรือนใหม่ Garmin จะแจ้งให้ แรบบิท ทำการยกเลิกฟังก์ชันการใช้งานแรบบิท และดำเนินการคืนยอดเงินคงเหลือให้กับคุณ
4. แรบบิทจะติดต่อคุณภายใน 15 วันเพื่อทำการตรวจสอบตัวตนและรายละเอียดจากคุณ จากนั้นจะดำเนินการคืนยอดเงินคงเหลือตามลำดับ

หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมการคืนเงิน 50 บาท จะเรียกเก็บโดยแรบบิท ซึ่งจะหักค่าธรรมเนียมการคืนเงิน 50 บาทจากยอดเงินคงเหลือในบัตร หากยอดเงินคงเหลือของคุณเหลือ 50 บาทหรือต่ำกว่า จะไม่สามารถดำเนินการขอคืนเงินได้

5. ในกรณีที่ Garmin ได้ทำการเปลี่ยนนาฬิกาเรือนใหม่ให้กับคุณ คุณจะได้รับฟังก์ชันแรบบิทใหม่บนนาฬิกาเรือนใหม่ คุณสามารถตรวจสอบประวัติสถานะการซ่อมแซมนาฬิกาได้ ที่นี่ หากคุณได้รับการเปลี่ยนนาฬิกาเรือนใหม่หรือหากคุณไม่เคยทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตนมาก่อน (KYC) โปรดทำตามวิธีการเริ่มต้นการใช้งาน Garmin x Rabbit เพื่อให้การลงทะเบียนยืนยันตัวตน (KYC) และการเติมเงินเสร็จสมบูรณ์

ในกรณีที่คุณต้องการยกเลิกการใช้งานฟังก์ชันแรบบิทบนนาฬิกา คุณสามารถติดต่อเพื่อดำเนินการได้ที่ ศูนย์บริการแรบบิท (รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพญาไท) เพื่อทำการยกเลิกการใช้งานฟังก์ชันแรบบิทบนนาฬิกาและขอคืนยอดเงินคงเหลือในบัตร โดยอาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ ซึ่งคุณจะต้องรับทราบและยอมรับว่าการใช้งานฟังก์ชันแรบบิทบนนาฬิกานั้นจะถูกยกเลิกถาวร และไม่สามารถผูกฟังก์ชันแรบบิทใหม่กับนาฬิกาได้อีก

หมายเหตุ: การคืนยอดเงินคงเหลือต้องเป็นไปตามนโยบายการยกเลิกบัตรแรบบิท เมื่อคุณดำเนินการคืนเงินแล้ว นั่นหมายความว่าคุณยอมรับว่าการใช้งานฟังก์ชันแรบบิทดังกล่าวจะถูกยกเลิกโดยถาวร และฟังก์ชันบัตรแรบบิทบนนาฬิกาจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

ในกรณีที่คุณต้องการนำนาฬิกาไปขายต่อหรือให้ผู้อื่นใช้ โปรดอย่าทำการยกเลิกฟังก์ชันแรบบิทโดยตัวคุณเอง ผู้ใช้นาฬิกาคนปัจจุบันและผู้ใช้นาฬิกาคนใหม่ ต้องนำเอกสารที่เกี่ยวข้องติดต่อศูนย์บริการแรบบิท ที่รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพญาไท พร้อมกันเพื่อพิสูจน์ตัวตนและทำการคืนยอดเงินคงเหลือของผู้ใช้นาฬิกาคนปัจจุบัน โดยจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ 50 บาท ทั้งนี้ผู้ใช้นาฬิกาคนใหม่จะต้องทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน (KYC) ทันที ทั้งนี้แรบบิท ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการเปลี่ยนผู้ใช้งาน ในกรณีที่ผู้ใช้นาฬิกาคนปัจจุบันและผู้ใช้นาฬิกาคนใหม่ไม่ได้มาดำเนินการที่ศูนย์บริการแรบบิทพร้อมกัน

ในกรณีที่นาฬิกา Garmin x Rabbit สูญหายหรือถูกขโมย คุณสามารถติดต่อแรบบิท ฮอตไลน์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2617-8383 เพื่อขอระงับการใช้งานและทำการคืนยอดเงินคงเหลือ โดยการระงับบัตรแรบบิทจะถูกดำเนินการแล้วเสร็จหลังจาก 24 ชั่วโมงที่ได้รับแจ้ง หากเกิดรายการใช้งานระหว่าง 24 ชั่วโมง แรบบิทและ Garmin จะไม่เป็นผู้รับผิดชอบในกรณีที่มีการทำรายการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ อาจมีการเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ

ในกรณีที่คุณพบนาฬิกา Garmin x Rabbit หลังจากที่แจ้งนาฬิกาสูญหาย คุณสามารถติดต่อแรบบิทฮอตไลน์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2617-8383 เพื่อสอบถามสถานะการดำเนินการคืนยอดเงินคงเหลือ คุณจะสามารถขอยกเลิกการดำเนินการได้ในกรณีที่ทางแรบบิท ยังไม่ได้เริ่มดำเนินขั้นตอนการคืนเงิน นอกจากนี้คุณสามารถตรวจสอบและยืนยันการขอระงับการยกเลิกสำหรับคืนยอดเงินคงเหลือได้ที่ศูนย์บริการแรบบิท (รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพญาไท) โดยจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 50 บาท จากแรบบิท

การคืนยอดเงินคงเหลือในบัตรจะต้องดำเนินการคืนเงินผ่านแรบบิทในประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้น หากคุณอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศและทำการส่งซ่อมนาฬิกา Garmin x Rabbit จะไม่สามารถทำการคืนยอดเงินคงเหลือในบัตรได้ หาก Garmin ได้ทำการเปลี่ยนนาฬิกาเป็นเรือนใหม่

หากคุณค้นหาคำว่า “Rabbit” ในช่องค้นหา คุณอาจพบแอปที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น แนะนำให้คุณใส่คำว่า “My Rabbit” ลงในช่องค้นหาแอป และตรวจสอบอีกครั้งว่าคุณดาวน์โหลดแอป My Rabbit ที่ถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชั่น NFC ร่วมกับ iOS v.13 หรือ Android 8 ขึ้นไปเท่านั้น โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

คุณสามารถคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดแอป My Rabbit:

สำหรับเวอร์ชั่น Android: ที่นี่

สำหรับเวอร์ชั่น iOS: ที่นี่

ขออภัย คุณสามารถดาวน์โหลดแอป My Rabbit ได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น และเฉพาะผู้ที่มีสัญชาติไทยเท่านั้นที่สามารถทำการยืนยันตัวตนผ่านแอป My Rabbit ได้ หากคุณเป็นชาวต่างชาติ/ นักท่องเที่ยว โปรดทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน ที่ ห้องจำหน่ายตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอส ทุกสถานี ด้วยหนังสือเดินทางของคุณ